ประเด็นร้อน

อากาศที่เราหายใจ คอร์รัปชันไม่ไกลตัวอีกต่อไป

โดย ACT โพสเมื่อ Jan 23,2019

- - ขอบคุณข้อมูลจาก แนวหน้า - -

 

คอลัมน์ ลงมือสู้โกง  โดย : สุภอรรถ โบสุวรรณ

 

เข้าสู่ปีใหม่ 2562 เป็นอย่างไรบ้างครับท่านผู้อ่านช่วงนี้ไปไหนมาไหนในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล หรือในอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศโดยเฉพาะชุมชนเมือง ก็ต้องใส่หน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่นขนาดเล็ก ไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือที่เรียกว่าฝุ่น PM 2.5 (เทียบขนาดประมาณ 1 ใน 25 เส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผม) เพราะว่าฝุ่น PM 2.5 นี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพและยังเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งด้วย ด้วยขนาดที่เล็กมากของฝุ่นนี้ เมื่อเข้าสู่ร่างกายผ่านระบบทางเดินหายใจ จะสามารถแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือดและเป็นอันตรายกับอวัยวะภายในได้

 

ที่จริงเรื่องฝุ่น PM 2.5 นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ของปีที่ผ่านมาก็มีการฟุ้งกระจายของฝุ่นชนิดนี้ในระดับเกินมาตรฐานเช่นกัน แต่เป็นเพียงระยะสั้นๆ จึงเป็นเรื่องที่สามารถคาดเดาได้ว่า หากเราไม่จริงจังในการแก้ปัญหา ปีหน้าก็จะพบกันใหม่อย่างแน่นอน เกริ่นมานานท่าน ผู้อ่านอาจสงสัยได้ว่าฝุ่น PM 2.5 หรือมลภาวะทางอากาศนี้จะเกี่ยวข้องกับการโกงหรือการลงมือสู้โกงได้อย่างไร ทั้งนี้ในบทความนี้จะไม่ขอกล่าวถึงสาเหตุจากธรรมชาติที่อากาศปิดทำให้ฝุ่นขนาดเล็กพวกนี้ไม่สามารถลอยละล่องไปที่อื่นได้ แต่จะขอกล่าวถึงปัจจัยที่ผลิตฝุ่นเหล่านี้สู่สังคม ที่ทุกคนสามารถให้ความร่วมมือในการไม่เป็นผู้ทำเสียเองและร่วมเป็นหูเป็นตาช่วยกันแจ้งให้เบาะแสเพื่อลดปัจจัยเหล่านี้ได้ครับ

 

ท่านผู้อ่านทราบหรือไม่ว่าส่วนหนึ่งของปัญหาฝุ่นพิษ หรือ ฝุ่น PM 2.5 นั้น ส่วนหนึ่งเป็น ปัญหาต่อเนื่องมาจากการทุจริตคอร์รัปชัน ประการแรก คือ การทุจริตคอร์รัปชันทำให้การทำผิดกฎระเบียบเกิดขึ้นได้ เช่น การจ่ายส่วย จ่ายสินบน ทำให้เกิดการปล่อยปละละเลย ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะการใช้รถยนต์ทั้งส่วนบุคคลและการบรรทุกขนส่งในภาคธุรกิจที่ปล่อยไอเสีย มีค่าควันดำเกินมาตรฐาน โดยจากผลการศึกษาแหล่งที่มาของฝุ่นละอองพบว่าร้อยละ 40 มีที่มาจากควันดำของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ ทั้งที่ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ออกคำสั่งห้ามใช้ยานพาหนะ (ห้ามใช้ชั่วคราว, ห้ามใช้เด็ดขาด) แก่รถยนต์ที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐาน พร้อมทั้งบันทึกหมายเลขทะเบียนลงในคอมพิวเตอร์เพื่อแจ้งไปยังนายทะเบียนของกรมขนส่งทางบกเพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง แต่ทุกวันนี้ เรายังสามารถพบเห็นรถยนต์ที่มีควันดำอยู่บน ท้องถนนเป็นเรื่องปกติจนชินตา ทำให้เกิดคำถามกับหลายๆ คนว่ารถเหล่านี้ผ่านการตรวจสภาพ ต่อทะเบียนมาได้อย่างไร และยังวิ่งอยู่ได้อย่างไร

 

เมื่อรถยนต์ส่วนบุคคลมีค่าควันดำเกินมาตรฐาน ไม่สามารถใช้งานบนท้องถนนได้ รัฐจึงรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้บริการของขนส่งมวลชนแทน แต่ในความเป็นจริงแล้วรถเมล์ในกรุงเทพมหานครทั้งหมด กว่าสองพันคัน มีจำนวนไม่น้อยที่ใช้งานมาหลายปี เครื่องยนต์ผลิตด้วยเทคโนโลยีแบบเก่าทั้งยังเสื่อมสภาพ ก่อให้เกิดควันดำ เกินมาตรฐาน ถ้าไม่เกิดการส่อทุจริตในโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีที่มีมาตั้งแต่ปี 2548 ต้องพับโครงการไปหลายครั้งหลายคราว จนกระทั่งเมื่อ จัดซื้อจัดจ้างได้แล้วก็พบปัญหาการส่อเค้าการปลอมถิ่นฐานที่ผลิตจนทำให้ไม่สามารถรับมอบรถได้ ประชาชนจึงต้องทนใช้บริการขนส่งมวลชนด้วยรถเมล์เก่าควันดำ ที่ทำให้เกิดฝุ่นพิษกันต่อเนื่องยาวมานานเกินกว่าที่ควรจะเป็นถึง 13 ปี เรียกได้ว่า การทุจริตคอร์รัปชันทำให้รัฐอันหมายรวมถึงประชาชนโดยรวมเสียโอกาสและเสียสุขภาพมิเช่นนั้นแล้วประชาชนคงได้ใช้รถเมล์แบบใหม่ที่ เครื่องยนต์ใหม่ การเผาไหม้สมบูรณ์กว่า และ ปล่อยมลภาวะออกมาน้อยกว่ารถเมล์เก่าที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

 

ยังไม่รวมถึง การทุจริตคอร์รัปชันอีกมากที่ลดภูมิคุ้มกันทางสุขภาพของสังคม อื่นๆ ซึ่งทำลายระบบนิเวศและส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศที่เราหายใจ เช่น การรุกล้ำพื้นที่อุทยาน เอาพื้นที่อุทยานมาเป็นของตนเอง การตัดไม้ทำลายป่า โดยมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจ การจัดการของเสียจากโรงงานที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย การนำเข้าขยะอย่างผิดกฎหมาย การโกงในการจัดซื้อจัดจ้างการบำบัดของเสีย ฯลฯ โดยทั้งหมดที่เป็นการกระทำผิดกฎหมายนั้นจำต้องอาศัย การทุจริตคอร์รัปชันไม่ว่าจะเป็นการคอร์รัปชันระดับนโยบาย การใช้อำนาจโดยมิชอบ การฮั้ว ไปจนถึงส่วย สินบน

 

ถึงแม้การโกง การทุจริตคอร์รัปชันไม่ใช่การผลิตฝุ่น PM 2.5 โดยตรง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นปัจจัยในการเพิ่มมลภาวะอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อพิจารณาให้ดีแล้วจะเห็นว่าการทุจริตคอร์รัปชันนั้นสามารถสร้างผลกระทบถึงบุคคลได้รุนแรงและจำนวนมาก ซึ่งในเรื่องนี้ผมเคยได้มีโอกาสพูดคุยกับหลายท่านในเรื่องผลกระทบของปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน ได้รับการสะท้อนและให้ความเห็นว่าปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันเป็นปัญหาสำคัญที่ควรแก้ไข แต่หลายท่านเองก็ยังมองการทุจริตคอร์รัปชันเป็นเรื่องงบประมาณ เรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งผลกระทบในมุมมองของพวกเขาเหล่านั้น มักไม่สามารถเชื่อมโยงมาสู่ผลกระทบที่ใกล้ตัวบุคคลและเป็นผลกระทบที่ร้ายแรงถึงชีวิตคนจำนวนมากได้ ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ออกจากพรมที่ถูกทุกคนร่วมกันซุกในครั้งนี้ คงจะสามารถทำให้ท่านทั้งหลายได้ตระหนักว่าผลของการทุจริตคอร์รัปชันนั้นอยู่ใกล้ตัวเรานิดเดียว อย่างน้อยก็คืออยู่ในลมหายใจครับ

 

 

 

 

 

 

#ร่วมเป็นคนไทยตื่นรู้สู้โกง

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw